วันพฤหัสบดีที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2555

แก้ไขแล้วค่ะ


สวัสดีค่ะ  ดิฉันชื่อนางสาว กันธิชา  ฤทธิ์อ้น นักศึกษาระดับชั้น ปวส. 2/1  แผนกวิชาการจัดการสำนักงาน ดิฉันได้เรียนวิชา สื่อสารธุรกิจไทย และเพื่อนๆ ก็นำเสนอหน้าชั้นเรียนแต่ละหัวข้อ จากหนังสือจดหมายพ่อสอนลูกโดยในหนังสือจะมีเป็นตอนๆ แล้วได้ข้อคิด จึงได้เรียบเรียงข้อมูลขึ้นเป็นบทความให้เป็นความรู้เล็กๆ น้อยๆ ให้กับทุกคนค่ะ
ลูกที่พ่อภูมิใจ เอริ์ธเป็นลูกคนเดียวและจบการศึกษา พ่อจึงมีความยินดีที่ลูกได้จบการศึกษา จนได้รับปริญญาตรีและพ่อของเอริ์ธอธิบายอย่างยินดีกับอาจารย์ว่าขอบคุณอาจารย์ของลูกที่ทำหน้าที่เป็นเรือจ้าง ทำให้ลูกได้จบการศึกษานี้ และต่อมาเอริ์ธได้เข้าทำงานแล้วและพ่อของเอริ์ธได้สอนว่าการที่เราจะทำงานให้สำเร็จนั้นไม่ได้อาศัยเรื่องดวงเพียงอย่างเดียว แต่ต้องอาศัยความอุตสาหะ การมีความรู้ ทักษะและทัศนคติ ที่ดีต่อนาย การที่เอริ์ธได้ทำงานนั้นต้องรู้จักว่าควรปฏิบัติตนอย่างไรและต้องรู้จักหน้าที่ของตนเอง และการทำงานของเอริ์ธก็จะดีบ้างไม่ดีบ้าง เอริ์ธถามพ่อว่า การตบหัวแล้วลูบหลังหรือตบหลังแล้วลูบหัวต่างกันอย่างไร พ่อตอบเอริ์ธว่า นายส่วนใหญ่จะใช้อำนาจดุด่าว่ากล่าวลูกน้อง โดยที่ลูกน้องไม่ได้กระทำผิดใดๆและเมื่อรู้ว่าตนเองเป็นฝ่ายผิดก็จะมาพูดดีด้วยภายหลังและจะทำให้ความรู้สึกของลูกน้องที่มีต่อเจ้านายเปลี่ยนไป พ่อได้สอนเอริ์ธอีกว่าการประจบสอพลอนั้น พ่อเข้าใจความรู้สึกของลูกเกี่ยวกับการทำงาน ทุกคนมีความประจบสอพลอ แต่ถ้าลูกประจบสอพลอให้เจ้านายรัก แต่หากแล้วคนอื่นจะมองลูกว่าเป็นคนที่ชอบประจบสอพลอเจ้านาย คนเรานั้นมีแตกต่างกันออกไปมีทั้งดีและไม่ดี เราต้องใช้ความรู้ความสามารถที่เรามีอยู่เต็มที่ไม่ใช่ว่าจะประจบสอพลอ ให้เจ้านายรักเพียงอย่างเดียว ในการโยกย้ายการทำงานอย่างแรกที่เราควรทำนั้นต้องแก้ไขปัญหาตัวเราและทำงานที่ได้รับมอบหมายไว้ให้ดีที่สุด เพราะการที่เราใช้ความสามารถและความรู้นั้นจะเป็นตัวกำหนดและวัดคุณค่าของเราได้ การที่คนไทยเป็นมิตรง่ายจริงหรือเปล่านั้นสังเกตได้ว่าคนไทยไม่ค่อยเปิดใจรับเพื่อนใหม่ๆ แต่ในองค์กรสมัยใหม่นั้น นับว่าการมีเพื่อนใหม่เป็นสิ่งที่ดีมีการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ใหม่ๆ และหลายๆคนจะสงสัยว่าคนมีน้ำใจกลายเป็นคนที่ถูกเอาเปรียบ การไม่ขับรถตามกฎจราจรไม่ทำตามระเบียบและยังทำแต่ให้ตนเองได้ประโยชน์ฝ่ายเดียวโดยไม่นึกถึงใจคนอื่น แต่การที่เราจะมีน้ำใจคือ เหตุการณ์ที่รถจอดอยู่หน้าซอยแล้วออกไม่ได้แล้วจอดให้เขาออกมาก่อนแบบนี้จะเรียกว่า มีน้ำใจ และพ่ออยากจะบอกเอริ์ธว่าการที่เราตั้งหน้าตั้งตาทำงานเรื่องนี้อาจเป็นประโยชน์แต่ถ้าหากการทำงานนั้นได้รับรู้ความลับของเจ้านายหรือคนสนิทไม่ดีลูกควรทำงานในหน้าที่ของลูกให้ดี และเอริ์ธได้เลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าแล้ว เป็นเจ้านายคนแล้ว เอริ์ธต้องเอาใจใส่ รับรู้ดูแล ความทุกข์ ความสุข ความเป็นไปต่างๆ ของลูกน้องด้วย ทั้งเรื่องส่วนตัวและหน้าที่การทำงานถ้าหากเขาขอความช่วยเหลือนั้นกว่าเราจะรู้ก็สายไปเสียแล้ว และเรื่องของการสั่งงานถ้าหากลูกน้องไม่มีสมาธิและทักษะในการทำงาน หากส่งงานให้ทำแล้วจะออกมาแบบไม่มีประสิทธิภาพ เอริ์ธมักจะสงสัยว่าลูกน้องของเขาจะเสนอหนังสือขึ้นมาให้เซ็น แต่บางครั้งจะเป็นคำว่าอนุญาต และก็อนุมัติเลยสงสัยว่าจะให้ใช้คำไหนกันแน่ พ่อของเอริ์ธจึงอธิบายว่า คำว่า อนุญาต มาจากภาษาบาลีว่า อนุญาต คือการยินยอม ยอมให้ ตกลง ไม่มีคำอธิบายต่อท้าย คำว่าอนุมัติ คือ การให้ทำตามคำที่ตกลงไว้ มีคำอธิบายต่อท้าย และคำว่าอนุญาต ไม่มีสระอิบนตอเต่า ถ้ามีสระอินั้นจะหมายถึงญาติพี่น้อง และเอริ์ธยังสงสัยอีกว่าทำไมลูกน้อง ไม่ทำงานที่ดีทั้งๆที่ก็ได้เงินเดือนที่เหมาะสม หน้าที่ก็เหมาะสม เพราะลูกน้องไม่ได้หวังเงินเดือนและตำแหน่งเพียงอย่างเดียว แต่ลูกน้องหวังได้รับความไว้วางใจ และได้ยอมรับนับถือ เพราะถ้าได้รับความไว้วางใจจากนายผลการทำงานก็จะออกมาเป็นอย่างดี
สุดท้ายนี้ การที่เรากำลังศึกษาหรือการที่เรากำลังทำงานนั้น ก็ต้องพบกับการเรียนและการทำงานจากบุคคลที่แตกต่างกันออกไป หรือการที่เราได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ นั่นเอง ปัญหาทุกอย่างนั้นเกิดขึ้นได้ก็ต้องมีทางแก้ปัญหานั้นได้ขึ้นอยู่กับปัญหาที่เราได้เจอ แต่ที่ได้ศึกษาเรื่องนี้ทำให้รู้ว่าการที่เราจะทำอะไรสำเร็จนั้นอยู่ที่ตัวเราเอง และในชีวิตเรานี้ย่อมเจอเรื่องร้ายและดีเกิดขึ้นเป็นธรรมดา ดิฉันคิดว่าจากบทความที่ดิฉันได้ทำขึ้นมานี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะค่ะ